แหล่งเรียนรู้ที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศและการนำเสนองาน

เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อนำเสนองาน

1.ความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองาน
ในอดีตมนุษย์ได้พยายามใช้เทคโนโลยีในยุคนั้นนำเสนอข้อมูล สารสนเทศ การเล่าเรื่อง เช่น การเขียนภาพในผนังถ้ำ ถือเป็นการใช้เทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือ ที่ใช้เขียน สลัก ขูดขีดให้เป็นรอย หรือแม้แต่ดินสีที่ใช้เขียน การนำเสนอนั้นยังเป็นหลักฐานคงทนให้มนุษย์ปัจจุบันได้ศึกษา ได้ใช้เทคโนโลยีสารสนสนเทศสร้างคุณภาพชีวิต คุณภาพทางการศึกษา คุณภาพสังคม และคุณภาพของธุรกิจ ในบริษัทหรือองค์กร

2.ความหมายของการใช้เทคโลโลยีสารสนเทศนำเสนองาน

เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองาน หมายถึง การถ่ายทอดความคิดในเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่มีวัตถุประสงค์แน่ชัด ในกลุ่มเป้าหมายเข้าใจภายในเวลากำจัด โดยใช้เครื่องมือ อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสื่อกลางในการนำเสนองานไปสู่กลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของผู้นำเสนอ

3.วัตถุประสงค์ในการนำเสนองาน


เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการออกแบบสื่อเพื่อการนำเสนองาน การใช้อุปกรณ์สารสนเทศที่สอดคล้องระหว่างสื่อกับวัตถุประสงค์ในการนำเสนอ โดยสามารถจำแนกวัตถุประสงค์ในการนำเสนอ ได้ดังนี้
     1.นำเสนอให้ทราบ เป็นการนำเสนอที่ต้องการบอกกล่าว บอกเล่าข้อเท็จจริง เพื่อแก้ข้อขัดแย้งที่มีอยู่เดิมหรือยืนยัน และการนำเสนอข้อมูลใหม่ๆ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้รับทราบเพิ่มเติม
    2.นำเสนอเพื่อการศึกษา เป็นการนำเสนอที่ต้องการให้เกิดความรู้กับกลุ่มเป้าหมาย การนำเสนอข้อค้นพบในผลงานใหม่ เช่น ผลการทดลองโครงงาน ผลการทดสอบประสิทธิภาพของโปรแกรมที่พัฒนา
   3.การนำเสนอเพื่อความบันเทิง เป็นการนำเสนอที่ให้ความสนุกสนานการผ่อนคลายเป็นหลัก โดยอาจจะเป็นการนำเสนอด้านเดียวจากผู้นำเสนอ เช่น การร้องเพลง การอ่านคำกลอน
   4.การนำเสนอเพื่อโน้มน้าวใจ เป็นการนำเสนนอที่ชักชวน ชวนเชื่อชักจูงให้กลุ่มเป้าหมายคล้อยตาม ยอมรับและปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ของผู้นำเสนอ ซึ่งเป็นหัวใจขององค์กรธุรกิจอุตสาหกรรมที่ต้องการเพิ่มผลผลิตหรือกำไร
        การนำเสนอนั้นอาจจะมีวัตถุประสงค์ของการนำเสนอมากกว่าหนึ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งเดียวกัน เช่น การนำเสนอเพื่อการบันเทิงและเพื่อโน้มน้าวใจ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ของการนำเสนอนั้นอาจไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของผู้ได้รับการนำเสนอก็ได้
4.ขั้นตอนการนำเสนองาน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อนำเสนองาน มีขั้นตอนดังนี้
 1.ศึกษาวัตถุประสงค์ในการนำเสนอ เพื่อให้นำเสนอได้ตรงประเด็น กระชับ และรูว่าต้องมีข้อมูลในกานนำเสนอมากน้อยเพียงใด
 2.วิเคราะห์และเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย เป็นการศึกษาเข้าใจธรรมชาติของกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้รับการนำเสนอ โดยมีแนวการศึกษากลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการนำเสนอ ดังนี้
 1) กลุ่มเป้าหมายคือใคร เกี่ยวข้องกับเรื่องที่นำเสนออย่างไร
 2) แนวความคิดและประสบการณ์ของกลุ่มผู้ฟัง
3) ความคาดหวังของกลุ่มผู้ฟัง
4) ระดับความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ในเนื้อหาที่นำเสนอของกลุ่มผู้ฟัง
5) ภูมิหลังหรือเรื่องราวที่อาจมีอิทธิพลต่อกลุ่มผู้ฟัง
6) ทัศนคติและสิ่งที่ผู้ฟังรับรู้เกี่ยวกับผู้นำเสนอ
7) ข้อมูลอื่นๆ เช่น จำนวนผู้ฟัง ช่วงเวลาในการนำเสนอ ระยะเวลาที่ใช้ในการนำเสนอ ลำดับการนำเสนอ สถานที่ประชุม
3. วางแผนการนำเสนอ เป็นการเตรียมเนื้อหาที่จะสื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้รับข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ และควรกำหนดขอบเขตเนื้อหาที่กลุ่มเป้าหมายควรรู้
4.ผลิตสื่อประกอบการนำเสนอ จะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายมองเห็นภาพรวมของข้อมูลและติดตามเนื้อหาได้ทัน
5.เตรียมบุคลิกภาพขณะนำเสนอ บุคลิกภาพที่ดีเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดความมั่นใจในขณะพูดทำให้ผู้ฟังประทับใจ และสนใจติดตาม บุคลิกภาพขณะนำเสนอที่ควรทำมี ดังนี้
      1) ภาษา ต้องเหมาะสมกับระดับวัย การศึกษาของกลุ่มเป้าหมาย สื่อความเข้าใจได้ดี
      2) การใช้เสียง ควรใช้เสียงให้เป็นธรรมชาติ ระดับเสียงดังสม่ำเสมอ
      3) การใช้สายตา เป็นสิ่งที่ดึงดูดสายตาผู้คน และควรสบตาให้ทั่วถึง
      4) การแต่งกาย เป็นสิ่งแรกที่ดึงดูดสายตาผู้คน สามารถบ่งบอกถึงบุคลิกภาพ นิสัย และทำให้ผู้ฟังเกิดความประทับใจและน่าเชื่อถือ

5.เทคโนโลยีสำหรับนำเสนองาน

 ฮาร์ดแวร์ (Hardware)  คือ  เครื่องมือ  อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์  หรืออุปกรณืคอมพิวเตอร์ต่างๆ ที่สามารถจับ  ต้องได้  ฮาร์แวร์แต่ละประเภทจะมีลักษณะและเหมาะสำหรับงานนำเสนองานต่างกัน  ตัวอย่างฮาร์ดแวร์ที่สนับสนุนการนำเสนองาน  เช่น
                1.  เครื่องฉายภาพข้ามศรีษะหรือเครื่องฉายภาพโปร่งใส (Overhead  Projector)  เป็นเทคโนโลยีที่สามารถนำเสนอได้โดไม่ต้องรับสัญญาณจากคอมพิวเตอร์  มีลักษณะการทำงานแบบอะนาล็อก (Analog)  โดยอาศัยหลักการหักเหของแสง  ช่วยรำเสนอข้อมูลในรูปแบบตัวอักษรและภาพนิ่งที่ต้องควบคุมการเปลี่ยนข้อมูลโดยผู้นำเสนอจึเหมาะสำหรับใช้ประกอบคำบรรยาย  โดยผู้นำเสนอจะต้องเขียนหรือพิมพ์ข้อมูลที่ต้องการนำเสนอแผ่นโปร่งใส  เปิดเครื่องฉายภาพข้ามศรีษะ  แล้วนำแผ่นโปร่งใสวางบนแท่นกระจก  เพื่อให้แสงทะลุผ่านแผ่นโปร่งใสจนเกิดเงาบนฉากหลังแบบ  2  มิติ  ปัจจุบันเครื่งฉายภาพข้ามศรีษะไม่นิยมใช้ในการนำเสนองานมากนัก  เนื่องจากมีการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มากขึ้น
                2.  เครื่องฉายภาพ  3  มิติ (Digital  Visualizer)  พัฒนาการมาจากเครื่องฉายภาพข้ามศรีษะและเครื่องฉายภาพทึบแสง (Opaque  Projector) ทำให้เกิดความสะดวกในการนำเสนองานที่เป็นวัตถุ  3  มิติ  โดยไม่ต้องถ่ายภาพวัตถุนั้นไปทำเป็นแผ่นโปร่งใสก่อนนำเสนอ  บางรุ่นไม่มีถาดรองวัตถุเพื่อให้ฉายวัตถุขนาดใหญ่มากๆ ได้  การใช้งานเครื่องฉายภาพ  3  มิติลงบนถาดรองวัตถุหรือเชื่อมต่อกับกล้องจุลทรรศน์  เพื่อแสดงข้อมูลภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว  ปัจจุบันสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานร่วมกัน
                3.  จอภาพ (Monitor) ใช้สำหรับเสนองานที่ได้รับจากการประมวลผลของคอมพิวเตอร์  เวลาใช้งานจะต้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เสมอ  เหมาะสำหรับงานนนำเสนอแบบหนึ่งต่อหนึ่ง  คือ  มีผู้รับข้อมูล  1  คนต่องานนำเสนอ  1  งาน  มีข้อดีที่สามารถตอยสนองต่อการรับข้อมูลของผู้รับข้อมูลได้ดี  เนื่องจากผู้รับข้อมูลสามารถกำหนดการนำเสนองานได้ด้วยตนเองผ่านทาง คอมพิวเตอร์   ปัจจุบันมีการพัฒนาจอภาพอย่างต่อเนื่องทั้งรูปแบบและความละเอียดในการนำเสนอ งาน  จอภาพบางชนิด  สามารถรับข้อมูลจากผู้รับข้อมูลได้โดยไม่ต้องผ่านอุปกรณ์รับข้อมูลอื่นๆ เราเรียกจอภาพลักษณะนี้ว่า  จอภาพแบบสัมผัส
จอภาพวีจีเอ
จอภาพแบบก๊าซพลาสมา
                4.  โพรเจกเตอร์  (Projector)  เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยนำเสนองานในรูปแบบของตัวอักษร  ภาพ  และภาพเคลื่อนไหวเหมือนกับการนำเสนอด้วยจอภาพ  ฉตโพนเจกเตอร์จะขยายสัญญาณที่ได้รับจากคอมพิวเตอร์ไปฉายบนฉากหลังที่มีลักษณะเป็ยจอภาพนาดใหญ่  โพรเจกเตอร์แบ่งเป็น  2  ประเภท  ได้แก่  แอลซีดีโพรเจกเตอร์และดีแอลพีโพรเจกเตอร์
                                4.1   แอลซีดีโพรเจกเตอร์ (LCD : Liquid  Crystal  Display  Projector) เป็นเทคโนโลยีในรูปแบบอาล็อก  โดบมีหลักการทำงานเมื่อรับสัญญาณจากคอมพิวเตอร์แล้วจะส่องแสงผ่านของเหลว เพื่อตกกระทบกับแผ่นกระจกสีแดง  สีเขียว  และสีน้ำเงินทำให้เกิดข้อมูลส่งไปฉายบนฉากหลัง  แอลซีดีโพรเจกเตอร์มีขนาดใหญ่  เนื่อจากขณะใช้งานจะมีความร้อนสะสม  จึงต้องติดตั้งพัดลมเพื่อระบายความร้อน  ทำให้มีอายุการใช้งานสั้นและดูแลรักษาได้ยากกว่าดีแอลพีโพรเจกเตอร์
                                4.2  ดีแอลพีโพรเจกเตอร์ (DLP : Digital  Light  Processing  Projector)  เป็นเทคโนโลยีในรูปแบบดิจิทัล (Digital) พัฒนามาจากแอลซีดีโพรเจกเตอร์  โดยใช้ชิปที่ประกอยด้วยกระจกขนาดเล็กหลายๆ ชิ้น  แต่ละชิ้นแทนพิกเซลที่เป็นส่วนประกอบของภาพ  เมื่อได้รับสัญญาณจากคอมพิวเตอร์  กระจกขนาดเล็กแต่ละชิ้นจะเอียงเป็นมุมตกกระทบต่อแสงอย่างอิสระ  ผ่านแผ่นกระจกสีเขียว  สีแดง  และสีน้ำเงินที่หมุนด้วยความเร็วสูง  แล้วประมวลผลจนทำให้เกิดข้อมูลฉายไปยังฉากหลัง  ข้อมูลที่ได้จึงมีความละเอียด  สมจริง  นอกจากนี้ดีแอลพีโพรเจกเตอร์จะมีขนาดเล็ก  น้ำหนักเบา  แต่ราคาแพงกว่าแอลซีดีโพรเจกเตอร์
                โพรเจกเตอร์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบนสามารถนำเสนอข้อมูลในรูปแบบ  3  มิติหรือฮอโลแกรม (Hologram)  ที่มีลักษณะเป็นข้อมูลเสมือนจริง  แต่ยังไม่นิยมใช้มากนัก  เนื่องจากมีราคาสูงและมีข้อจำกัดในการนำเสนอข้อมูล
                5.  ลำโพง (Speaker)  จอภาพและโพรเจกเตอร์ไม่สามารถนำเสนอข้อมูลในรูปแบบเสียงได้  ดังนั้นหากผู้นำเสนองานที่มีเสียงประกอบหรือมัลติมีเดีย  ผู้นำเสนอจะต้องเชื่อมต่ลำโพงกับคอมพิวเตอร์เพิ่มเติม  ลำโพงเหมาะสำหรับการนำเสนองานกับผั้บข้อมูลจำนวนมาก  แต่หากเป็นงานนำเสนอที่มีผู้รับข้อมูลเพียงคนเดียวจะนิยมใช้หูฟัง (Earphone)  แทนลำโพง
 6.รูปแบบการนำเสนอด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ

รูปแบบที่ใช้ในการนำเสนอผลงานที่ใช้ในปุจจุบันมี 2 รูปแบบดังนี้
        การนำเสนอแบบ Slide Presentation
  • โดยใชโปรแกรม Powerpoint  เป็นโปรแกรมนำเสนอผลงานในชุด Microsoft Office เป็นโปรแกรมที่ใช้ง่ายมากมีแม่แบบให้เลือกหลายแบบ องค์ประกอบหลักของแต่ละหน้าของการนำเสนอคือ หัวข้อ













โดยใช้โปรแกรม ProShow Gold
ProShow Gold 2.0 เป็นซอฟต์แวร์สำหรับสร้างแผ่น VCD จากรูปภาพต่าง ๆ ที่ทำงานได้รวดเร็ว หลายคนคงจะมีไฟล์รูปภาพต่าง ๆ เก็บสะสมไว้ และเมื่อต้องการที่จะนำเอาภาพเหล่านั้น มาแปลงให้อยู่ในรูปแบบของแผ่น VCD ที่สามารถนำเอาไปใช้เปิดกับ เครื่องเล่น VCD ทั่วไปได้ ต้องมาลองดูซอฟต์แวร์ตัวนี้ครับ ProShow เป็นซอฟต์แวร์ ที่สามารถนำเอาภาพ มาทำเป็นแผ่น VCD โดยที่สามารถทำการแปลงได้อย่างรวดเร็ว และยังใส่เสียงเพลงประกอบได้ด้วย
โดยทั่วไปแล้ว ซอฟต์แวร์สำหรับการทำแผ่น VCD จากรูปภาพจะมีหลายตัว แต่ที่แนะนำ ProShow เนื่องจากเหตุผลหลักคือ การใช้เวลาทำการแปลงที่รวดเร็วมาก ปกติถ้าเป็นซอฟต์แวร์ตัวอื่น จะใช้เวลาหลายชั่วโมง แต่ตัว ProShow นี้ใช้เวลาแปลง ไม่ถึงชั่วโมงก็เสร็จแล้ว ภาพที่ได้ก็จัดอยู่ในคุณภาพดี โดยข้อเสียที่พบในตัวโปรแกรมนี้ คือค่อนข้างจะมีความยุ่งยาก ในขั้นตอนของการใช้งานบ้าง แต่ก็ไม่มากมายอะไรนัก
การเตรียมข้อมูลของภาพและเพลงต่าง ๆ ก่อนที่จะเริ่มติดตั้งและใช้งาน
ก่อน อื่น ก็ต้องทำการหาดาวน์โหลดซอฟต์แวร์นี้มาก่อน โดยสามารถหาได้จาก http://www.photodex.com และหารหัส สำหรับการลงทะเบียนจากเว็บไซต์ทั่วไปกันเองครับ จากนั้น สิ่งต่อไปที่จะต้องมีก็คือ ไฟล์รูปภาพต่าง ๆ ซึ่งอาจจะเป็นไฟล์ .jpg ก็ได้ และไฟล์ของเพลงที่จะนำมาใส่ประกอบ ซึ่งจะใช้เพลงแบบ MP3 ทั่วไปก็ได้ครับ สุดท้ายก็คือ เครื่องเขียนซีพีหรือ CD-R Writer สำหรับใช้ในการเขียนแผ่น VCD ที่จะได้ เมื่อเตรียมไฟล์ต่าง ๆ พร้อมแล้ว ก็เริ่มต้น ขั้นตอนการติดตั้งกันได้เลย เริ่มต้นการติดตั้ง โดยการเรียกไฟล์สำหรับติดตั้ง ProShow gold ก่อน


สรุปสาระสำคัญ


ความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองาน

       ใช้ในการนำเสนอข้อมูล สารสนเทศ เล่าเรื่องราว สร้างคุณภาพชีวิต คุณภาพทางการศึกษา คุณภาพสังคม และคุณภาพของธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ
ความหมายของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองาน
       การใช้เครื่องมือและอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศและซอฟต์แวร์ถ่ายทอดความคิดและข้อมูลเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจวัตถุประสงค์ของการนำเสนอและปฏิบัติให้บรรลุวัตถุประสงค์นั้น
วัตถุประสงค์ในการนำเสนองาน มีดังนี้
       1. นำเสนอให้ทราบ
       2. นำเสนอเพื่อการศึกษา
       3. นำเสนอเพื่อความบันเทิง
       4. นำเสนอเพื่อความโน้มน้าวใจ
ขั้นตอนการนำเสนองาน มีดังนี้
       1. ศึกษาวัตถุประสงค์ในการนำเสนอ
       2. วิเคราะห์และเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย
       3. วางแผนการนำเสนอ
       4. ผลิตสื่อประกอบการนำเสนอ
       5. เตรียมบุคลิกภาพขณะนำเสนอ
เทคโนโลยีสำหรับนำเสนอสารสนเทศ ได้แก่
       ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ซึ่งต้องรู้จักใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะงาน
รูปแบบการนำเสนอด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
       สามารถทำให้น่าสนใจโดยใช้ซอฟต์แวร์อิมเพรสสร้างชุดสไลด์ตัวช่วย จัดรูปแบบข้อความ นำเข้าภาพ ไฟล์เสียง ไฟล์วิดีโอ ข้อมูลและลูกเล่นต่าง ๆ





แหล่งที่มา
http://bigbangthemyfriand.blogspot.com/2013/02/3.html
http://ed-present.blogspot.com/2012/04/blog-post_5888.html
https://sites.google.com/site/sipoopppppppo/home

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น